บทที่ 7 ตอนที่ 7
“ไม่ใช่”
ดลกรยกมือขึ้นเกาหัว
“นี่แกบอกฉันมาสักทีเถอะว่าใครทำแกร้องไห้ ฉันเดาจนสมองเสื่อมหมดแล้วเนี่ย”
มัทนามองหน้าดลกรทั้งน้ำตา ก่อนจะพูดออกมาด้วยความเคียดแค้นชิงชัง
“ไอ้แมทธิว!”
แทนที่ดลกรจะเห็นใจแต่กลับถอนหายใจแทน “นี่แกยังไม่ชินอีกเหรอ คุณแมทกับแกตีกันมา ตั้งแต่ฉันยังอยู่ในผ้าอ้อมอยู่เลย นี่ก็เป็นสิบปีแล้ว ชินเถอะเพื่อนขอร้องล่ะ” กะเทยร่างยักษ์ที่คิดว่าตัวเองสวยจัดไม่แพ้มิสยูนิเวิร์สยกมือท่วมหัว
“คราวนี้มันไม่เหมือนครั้งก่อนๆ น่ะสิ มัน...มัน...” หล่อนร้องไห้ออกมาอีก ไม่อาจพูดออกมาได้
“คราวนี้คุณแมทสุดหล่อน่ากระโดดคร่อมของฉันทำอะไรแกล่ะ”
“มัน...มัน...”
“จะมันจะเผือกก็พูดๆ มาเถอะ ฉันรอนานแล้ว นี่ถ้าเป็นสายบัวก็เหี่ยวแล้วเหี่ยวอีกแล้วล่ะ”
“มันมาจับจิ๋มฉัน”
“ฮะ???!!!” ดลกรแทบสำลักน้ำลายตาย “แกว่าอะไรนะ ใคร? ใครมาจับจิ๋มแก...” กะเทยร่างใหญ่จ้องหน้าเพื่อนสาวก่อนจะลดลงมองที่กลางลำตัวไปด้วย
“แล้วจิ๋มแกเป็นยังไงบ้าง สึกหรอไหม”
“นังนัตตี้ นี่แกทำหน้าให้มันเหมือนกำลังสงสารเห็นใจฉันหน่อยไม่ได้หรือไง ทำไมจะต้องทำหน้าระเรื่อ เหมือนอยากโดนจับเองด้วยล่ะ นี่ฉันกำลังอับอายนะจะบอกให้”
“แหม...ก็ฉันอยากโดนจับบ้างนี่แก...”
“นังนัตตี้!”
“เออๆ ฉันเห็นใจแกจริงๆ ว่ะ น่าสงสาร จิ๋มก็อยู่ของมันดีๆ ดันถูกผู้ชายหล่อล่ำน่าปล้ำมาจับ เออ...ว่าแต่จับเฉยๆ หรือว่าทำอย่างอื่นด้วย แล้วจู่ๆ มาจับได้ยังไง”
“นี่แกเลิกถามได้ไหม ฉันอยากจะลืมมัน”
“ไม่ได้นะแก...แกต้องเล่า ไม่อย่างนั้นฉันจะมีอารมณ์ร่วมกับแกได้ยังไง แกไม่อยากให้ฉันร่วมวงด่าคุณแมทด้วยหรือไง”
คนที่ร้องไห้ไม่หยุดชะงัก
“อยาก...”
“งั้นเล่ามา”
มัทนาจำใจต้องเล่าในสิ่งที่อัปยศออกไปทั้งๆ ที่อยากจะลืม
“ตายแล้วแก...” ดลกรกรีดร้องเสียงดังลั่น
“เห็นแล้วใช่ไหมว่าไอ้หมอนั่นมันเลวแค่ไหน”
“เปล่า...ฉันอยากถูกคลึงถูกบี้แบบแกบ้างว่ะ นังมัท”
“นังนัตตี้!”
“อ๋อๆ ๆ ใช่ๆ เลวจริงๆ ไม่คิดว่าผู้ชายหล่อๆ จะคลึงเก่ง เอ๊ย...ฉวยโอกาสเก่งแบบนี้”
“เห็นไหมล่ะว่ามันเลว”
“เห็น”
“ฉันจะต้องหาทางแก้แค้นให้ได้” มัทนายกมือเช็ดน้ำตาแรงๆ ดวงตาลุกโชนไปด้วยไฟแค้น
“แกจะทำยังไงนังมัท”
มัทนาหันมาจ้องหน้าเพื่อนกะเทยสุดรัก “นั่นเป็นหน้าที่ของแกที่จะต้องคิดแผนการแก้เผ็ดให้ฉัน”
“ช่วงนี้สมองตันคิดอะไรไม่ออกว่ะ”
“ฉันจะเลี้ยงส้มตำแกหนึ่งอาทิตย์ ถ้าคิดแผนเด็ดๆ ให้ฉันได้”
“โอเคเลย ฉันจะช่วยคิดเต็มที่” ดลกรรีบเปลี่ยนท่าทีอย่างรวดเร็ว
มัทนามองเพื่อนแล้วก็ส่ายหน้าอย่างรู้นิสัย “แกมันก็เห็นแก่กินแบบนี้เสมอนั่นแหละ กินจนตัวบวมไปหมดแล้วเนี่ย”
“นี่แกไม่รู้อะไร ฉันซ้อมกินไว้ไปแข่งโอลิมปิกโลกยังไงล่ะ”
“โอลิมปิก?”
“ใช่น่ะสิยะ โอลิมปิก” สองแขนล่ำๆ ของดลกรวาดขึ้นสูงด้วยท่าทางเพ้อฝัน
“แค่งานวัดก็พอมั้ง ไปกินแข่งกับช้างน่ะ”
คนที่กำลังฝันสะดุ้งตื่นทันที “นังบ้า ปากดีนักนะแก เพิ่งถูกบี้จิ๋มมาไม่ใช่เหรอ”
“นี่แก หยุดพูดถึงมันได้ไหม ฉันอาย”
“งั้นก็หยุดเอาฉันไปเทียบกับช้างสักทีสิยะ ฉันน่ะสูงส่งเกินกว่านั้นเยอะ”
“แล้วไอ้ที่สูงส่งของแกน่ะมันคืออะไรล่ะ”
“ฮิปโปไง...ฮิปโปน้อย อุ๊ย น่ารักที่สุด จริงไหมแก”
มัทนาแทบจะกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ มองหน้าเพื่อนด้วยสายตาขบขัน
“เออ...แกว่าน่ารักฉันก็ว่าอย่างนั้นแหละ”
แล้วหญิงสาวก็หันหน้าหลบไปแอบหัวเราะไม่ให้เพื่อนเห็น หัวเราะจนท้องคัดท้องแข็ง
“แก...ทำอะไรน่ะ”
“เปล่า...ไม่มีอะไร”
มัทนารีบหันหน้ามา กลั้นหัวเราะแต่ทำได้ยากนัก เพราะยิ่งเห็นหน้าดลกรก็ยิ่งขำ
“แน่นะแก”
“แน่สิ อ้อ...ว่าแต่แกเถอะ คิดแผนจัดการไอ้คนเลวนั่นได้หรือยัง ขอเด็ดๆ เอาให้อายจนต้องหาปี๊บมาคลุมหัวเลยนะ”
“ความจริงฉันทำร้ายคนหล่อๆ ไม่ค่อยลง แผนอาจจะไม่ค่อยเวิร์กเท่าไหร่นะแก”
สีหน้าของดลกรตอนพูดช่างน่าหมั่นไส้ยิ่งนัก
“แกก็ต้องเข้าใจฉันหน่อยนะ”
“งั้นเลี้ยงชาบูด้วยอีกหนึ่งอาทิตย์”
เมื่อเห็นเพื่อนกะเทยมัวแต่อารัมภบท มัทนาจึงเพิ่มสินบนมากขึ้น และมันก็เป็นจริงอย่างที่คาดเอาไว้ เพราะดลกรรีบคิดแผนการเด็ดๆ ออกมาให้หล่อนอย่างรวดเร็วทันที
“เอาหูมาแก ฉันคิดออกแล้ว รับรองเด็ดสะระตี่แน่นอน”
ความแค้นถ้ายังไม่ได้ดับมันก็จะเผาไหม้หัวใจอยู่อย่างนั้นจนอยู่ไม่เป็นสุข ดังนั้นมัทนาที่แค้นเคืองแมทธิวจนล้นอก จึงตัดสินใจเอาคืนชายหนุ่มในวันเดียวกันเลย
หล่อนให้ดลกรขับรถมาส่งที่หน้าบริษัทของแมทธิว จากนั้นก็ให้เพื่อนรักไปจอดรถอยู่อีกฝั่งของถนน รอให้หล่อนปฏิบัติภารกิจสำคัญให้เสร็จ จะได้กลับไปฉลองพร้อมกัน
เพราะคลุกคลีกับหนุ่มๆ มาเลซาสโซมาตั้งแต่เด็กๆ ทำให้หล่อนจดจำได้หมดว่าใครขับรถคันไหน หล่อนก้าวเข้ามายังบริเวณที่จอดรถสำหรับผู้บริหาร ซึ่งแน่นอนว่าในสถานที่นี้ไม่มีผู้คน เพราะหล่อนรอจนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำจุดนี้ไปห้องน้ำ จึงเล็ดลอดเข้ามา
รอยยิ้มพึงพอใจเกลื่อนใบหน้านวล เมื่อเดินมาหยุดที่ข้างรถสปอร์ตหรูคันงามของแมทธิว
“บังอาจมาจับจิ๋มฉัน...นายต้องโดนแบบนี้”
กระดาษสีขาวในมือที่เตรียมมาถูกยกขึ้นสูง ดวงตากลมโตไล่ไปตามตัวอักษรที่เป็นลายมือของตัวเองด้วยความสะใจ
